เปโตรเริ่มต้นโดยการพูดอย่างเฉพาะเจาะจงกับหญิงสองคนซึ่งมีฐานะเป็นภรรยา
เช่นเดียวกับการที่บรรดาผู้เชื่อต้องยอมเชื่อฟังอำนาจทุกอย่างของมนุษย์ (1 เปโตร 2:13) และคนรับใช้ที่ต้องเชื่อฟังนายของตน (1 เปโตร 2:18) ภรรยาก็ต้องเชื่อฟังสามีเช่นเดียวกัน คำว่า "เชื่อฟัง" "อยู่ภายใต้" และ "ยอมทำตาม" แปลโดยใช้คำๆ เดียวกัน
"อาจจะจูงใจเขาให้เชื่อในพระเยซูคริสต์ได้ด้วย" หมายถึงการที่สามีซึ่งเป็นผู้ที่ไม่เชื่อกลายมาเป็นผู้เชื่อ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "อาจทำให้เขากลายเป็นผู้เชื่อ" (ดูที่: figs_idiom และ figs_activepassive)
"โดยที่ภรรยาไม่ต้องพูดอะไรเลย" คำว่า "พูด" หมายถึงคำพูดที่ภรรยากล่าวออกไป
เปโตรพูดถึงการประพฤติเหมือนกับว่าเป็นวัตถุบางอย่างซึ่งสามารถจับต้องและเห็นได้ มากกว่าเป็นการกระทำที่ผู้คนแสดงออกมา (ดูที่:
figs_abstractnouns)
ความหมายที่เป็นไปได้คือ 1) "การกระทำอันจริงใจของคุณซึ่งกระทำกับเขาและวิธีการซึ่งคุณให้เกียรติแก่เขา" หรือ 2) "การกระทำอันบริสุทธิ์ที่คุณกระทำแก่เขาและการที่คุณถวายเกีรยติแด่พระเจ้า"
เปโตรยังคงพูดกับหญิงซึ่งเป็นภรรยาต่อไป
หมายถึงภรรยาที่ควรเชื่อฟังและประพฤติตัวให้ดีต่อสามีของเธอ
คำว่า "ภายใน" และ "จิตใจ" หมายถึงลักษณะความเป็นตัวตนภายในรวมถึงบุคคลิกภาพของคน คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "สิ่งที่เป็นตัวตนจริงๆ ของท่านข้างใน" (ดูที่: figs_metonymy และ figs_metaphor)
"ลักษณะท่าทางที่อ่อนโยนและเงียบสงบ" คำว่า "สงบ" ในที่นี้หมายถึง "สงบเสงี่ยม" และ "สงบเรียบร้อย" ส่วนคำว่า "วิญญาณ" ในที่นี้หมายถึงลักษณะท่าทางหรือทัศนคติรวมไปถึงนิสัยใจคอของคนๆ นั้น
เปโตรกล่าวถึงพระดำริของพระเจ้าต่อมนุษย์เหมือนกับว่ามนุษย์ได้ไปยืนอยู่ต่อหน้าพระพักตร์พระองค์จริงๆ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าทรงเห็นว่ามีค่า" (ดูที่: figs_metaphor)
เรียกท่านว่านาย หมายถึง เจ้านายของเธอ
เปโตรกล่าวว่าผู้เชื่อสตรีคนใดที่กระทำเหมือนกับที่นางซาราห์กระทำนั้นก็คิดเหมือนกับว่าเป็นลูกของนางซาราห์จริงๆ (ดูที่: figs_metaphor)
เปโตรเริ่มต้นโดยการพูดอย่างเฉพาะเจาะจงกับผู้คนซึ่งมีฐานะเป็นสามี
นี่หมายถึงย้อนกลับไปถึงข้อพระธรรมที่แสดงให้ว่านางซาราห์และหญิงผู้เชื่อคนอื่นๆ นั้นเชื่อฟังสามีอย่างไร ใน 1 เปโตร 3:5-6
เปโตรพูดถึงสตรีเหมือนกับภาชนะใส่ของ เช่นเดียวกับผู้ชายที่บางครั้งก็ถูกเปรียบเทียบในลักษณะดังกล่าว คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "อยู่กินกับภรรยาโดยใช้ความเข้าใจเหมือนกับเป็นผู้ที่อ่อนแอกว่า" (ดูที่:
figs_metaphor)
ท่านสามารถแปลประโยคนี้โดยใช้วลีที่เป็นคำพูดได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "จงให้เกียรติเธอเพราะเธอก็ได้รับชีวิตนิรันดร์จากพระเจ้าเช่นเดียวกัน" (ดูที่: figs_abstractnouns)
ผู้เขียนพูดถึงชีวิตนิรันดร์เหมือนกับว่าเป็นสิ่งซึ่งสามารถส่งต่อเป็นมรดกได้ (ดูที่: figs_metaphor)
คำว่า "เช่นนี้" หมายถึงวิธีการที่สามีควรปฎิบัติต่อภรรยา คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "จงอยู่กินกับภรรยาเช่นนี้" (ดูที่: figs_explicit)
คำว่า "ขัดขวาง" หมายถึงการที่สิ่งหนึ่งสิ่งใดถูกขัดขวางไม่ให้เกิดขึ้น ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เพื่อที่จะไม่มีสิ่งใดทำให้ท่านเขวไปจากการอธิษฐานอย่างที่ควร" (ดูที่: figs_explicit)
เปโตรอ้างอิงพระธรรมข้อนี้จากพระธรรมสดุดี (ดูที่: figs_explicit)
วลีสองวลีนี้โดยปกติแล้วมีความหมายอย่างเดียวกัน เพื่อเน้นย้ำให้เห็นถึงความปารถนาที่จะมีชีวิตที่ดี (ดูที่: figs_parallelism)
ในที่นี้การประสบการณ์สิ่งที่ดีในชีวิตถูกพูดถึงเหมือนกับว่าเป็นการได้เห็นสิ่งที่ดี คำว่า "วัน" หมายถึงช่วงชีวิตหนึ่งชีวิตของคนๆ หนึ่ง คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ประสบกับสิ่งที่ดีในชีวิต" (ดูที่: figs_metaphor และ figs_metonymy)
คำว่า "ลิ้น" และ "ริมฝีปาก" ในที่นี้หมายถึงผู้ที่กล่าวคำพูดออกมา ทั้งสองวลีนี้ตามจริงแล้วหมายถึงสิ่งเดียวกันใช้เพื่อเน้นย้ำคำสั่งห้ามมิให้โกหก คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "หยุดพูดการชั่วและอุบายทั้งปวง" (ดูที่: figs_parallelism และ figs_synecdoche)
คำว่า"พระเนตร" หมายถึงองค์พระผู้เป็นเจ้ามีความรอบรู้ในทุกสิ่ง ในที่นี้การที่พระเจ้าทรงเห็นคนชอบธรรมหมายถึงการที่พระองค์ทรงยอมรับคนชอบธรรม คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "องค์พระผู้เป็นเจ้ารับรอง คนชอบธรรม" (ดูที่: figs_synecdoche และ figs_metaphor)
คำว่า "พระกรรณ" หมายถึงการที่พระองค์ทรงตระหนักถึงสิ่งที่ผู้คนกล่าวในคำอธิษฐาน การที่พระเจ้าทรงสดับคำอธิษฐานของพวกเขาอาจบอกได้เป็นคำแทนว่าพระองค์ทรงตอบเขาด้วยเช่นกัน คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระองค์สดับคำอธิษฐานของเขา" หรือ "พระองค์ทรงคำอธิษฐานของพวกเขา" (ดูที่: figs_synecdoche และ figs_explicit)
คำว่า "พระพักตร์" หมายถึงพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่จะต่อต้านกับปฎิปักษ์ของพระองค์ การต่อต้านถูกพูดถึงเหมือนกับว่าเป็นการเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงต่อสู้" (ดูที่: figs_synecdoche และ figs_metaphor)
เปโตรยังคงสั่งสอนในเรื่องของการดำเนินชีวิตคริสเตียนต่อไป
เปโตรถามคำถามนี้เพื่อเน้นย้ำว่าหากท่านทำความดีแล้ว การจะมีคนมาทำร้ายก็คงเป็นไปได้ยาก คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ไม่มีใครที่จะมาทำร้ายท่านหากท่านได้ทำความดีแล้ว" (ดูที่: figs_rquestion)
ท่านสามารถแปลประโยคนี้ได้โดยใช้วลีที่เป็นคำพูดได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ทนทุกข์เพราะท่านได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง" (ดูที่: figs_abstractnouns)
ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระเจ้าจะทรงอวยพรท่าน" (ดูที่: figs_activepassive)
ทั้งสองวลีนี้มีความหมายคล้ายคลึงกัน ใช้เพื่อเน้นย้ำว่าผู้เชื่อไม่ควรที่จะกลัวผู้ที่อาจข่มเหงพวกเขา คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "อย่ากลัวสิ่งที่ผู้คนอาจทำกับท่าน" (ดูที่: figs_parallelism)
คำว่า "พวกเขา" ในที่นี้หมายถึงใครก็ตามที่พยายามทำร้ายผู้ที่เปโตรกำลังเขียนจดหมายถึง
"แทนที่จะกลัวหรือวิตกกังวล"
วลีที่ว่า "จงตั้งพระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า...ว่าเป็นองค์บริสุทธิ์" เป็นภาพเปรียบเทียบหมายถึงการที่เราได้ตระหนักรับรู้ถึงความบริสุทธิ์ของพระคริสต์เจ้า การกระทำดังกล่าวแสดงถึงการให้เกียรติในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง" (ดูที่: figs_metaphor)
คำว่า "ในใจ" ถูกใช้เพื่อแสดงถึงตัวตนภายในและศูนย์กลางทางอารมณ์ความรู้สึกของคนๆ หนึ่ง คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ด้วยใจอันมุ่งมาดปราถนาของท่าน" (ดูที่: figs_metaphor)
เปโตรได้อธิบายถึงการทนทุกข์ของพระคริสต์ รวมถึงบอกด้วยว่าพระองค์นั้นได้ทำสิ่งใดสำเร็จผ่านการทนทุกข์ของพระองค์
คำว่า "เรา" หมายถึง เปโตรและคนที่อ่านจดหมายฉบับนี้ (ดูที่: figs_inclusive)
คำว่า"เนื้อหนัง" หมายถึงร่างกายของพระเยซูคริสต์ พระเยซูคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์ฝ่ายร่างกาย ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "คนได้ประหารร่างกายพระองค์เสีย" (ดูที่: figs_metaphor และ figs_activepassive)
ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระวิญญาณได้ทำให้พระองค์ฟื้นพระชนม์ขึ้น" (ดูที่: figs_activepassive)
มีความหมายที่เป็นไปได้คือ 1) "โดยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ได้เสด็จไป" หรือ 2) "โดยการดำรงอยู่ทางพระวิญญาณ พระองค์ได้ทรงเสด็จไป"
มีความหมายที่เป็นไปได้ของคำว่า "วิญญาณ" คือ 1) "วิญญาณชั่ว" หรือ 2) "วิญญาณของคนตาย"
ความอดทนของพระเจ้าเป็นภาพเปรียบเทียบที่หมายถึงพระเจ้าเอง เปโตรได้เขียนถึงความอดทนของพระเจ้าเหมือนกับว่าเป็นคนๆ หนึ่ง คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เมื่อพระเจ้าทรงรอคอยอย่างอดทน" (ดูที่: figs_personification และ figs_metonymy)
ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เมื่อสมัยของโนอาห์ เมื่อโนอาห์ได้ต่อเรือ" (ดูที่: figs_activepassive)
"8 คน" (ดูที่: figs_synecdoche)
เปโตรกล่าวว่าการบัพติศมานั้นเหมือนกับกับวิธีการที่พระเจ้าทรงช่วยโนอาห์และครอบครัวของเขาไว้ให้พ้นจากน้ำท่วมด้วยเรือ
พิธีบัพติศมาหมายถึงการที่พระเจ้าทรงช่วยผู้คนให้รอด คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พิธีบัพติศมาซึ่งพระเจ้าได้ทรงช่วยท่านให้รอด" (ดูที่: figs_explicit)
ความหมายที่เป็นไปได้คือ 1) "คำวิงวอนต่อพระเจ้าให้พระเจ้าประทานใจที่สามารถวินิจฉัยผิดและชอบที่ดีให้" หรือ 2) "คำสัญญาที่คนๆ หนึ่งให้ไว้กับพระเจ้า ซึ่งเป็นสัญญาอันเกิดจากใจวินิจฉัยผิดและชอบที่ดี นั่นคือสัญญาต่อพระเจ้าด้วยความจริงใจนั่นเอง"
"เนื่องมาจากการทรงฟื้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์" ประโยคดังกล่าวทำให้คนอ่านเข้าใจว่าแท้จริงแล้ว "สัญลักษณ์ของพิธีบัพติศมาที่ช่วยเราให้รอด" นั้นหมายความว่าอย่างไร
"อยู่ใต้อำนาจของพระเยซูคริสต์"